เมื่อจะซื้อกระเป๋าสักใบคุณนึกถึงอะไรเป็นอันดับแรก?
ดีไซน์เก๋หรือไม่ ราคาแพง-ถูกเว่อร์ไปมั้ย ใช้สอยได้จริงหรือ ถือแล้วคนต้องมองกันเหลียวหลัง หรือต้องมียี่ห้อแบรนด์หรูแพงระยับ
2 สาวเซเลบริตี้คนดังโดดเด่นมาแรงในเมืองไทย ผู้คนมักชาชินกับภาพความเป็นสาวสังคม แต่งตัวเท่ห์ เก๋ ดูดีมีระดับ ซึ่งทั้ง 2 สาว ไม่คิดจะสงวนความสวยซ่าเด็ดเผ็ดมันไว้เพียงผู้เดียว ยังแบ่งปันความกิ๊บเก๋ของกระเป๋าดีไซน์ภายใต้ตัวตนของเธอทั้ง 2 อีกด้วย
ช้อปแหลก!!กระเป๋าแฟชั่นแบรนด์คนดังของใครสุดเจ๋ง ใบไหนน่าสอย รุ่นไหนน่าวาง ไปดูกันเล้ย….
กระเป๋าใบโตแบรนด์ PG Mall สาวเวิร์กกิ้งหอบแลปท็อป เลิฟท่องเที่ยว ปลื้มสัตว์เลี้ยง
ขึ้นชื่อยี่ห้อ ปิงปอง ซะ อย่าง ทุกสิ่งอย่างตลอดจนเสื้อผ้าหน้าผมย่อมเก๋ไก๋ ไม่ทิ้งลายมาดผู้ดีเก่า คุณปิงปองพูดชัดถ้อยชัดคำว่า ชอบอกชอบใจสไตล์ย้อนยุค หรือเรียกว่า วินเทจ (Vintage) ยิ่งนัก หลังควานหากระเป๋าสารพัดแบรนด์แต่ฟังค์ชั่น (function)ไม่ได้ แถมรูปทรงไม่เวิร์ก จึงไม่วายโชว์เดี่ยวโดดมาจับธุรกิจทำกระเป๋าภายใต้แบรนด์ Mangmoom เพื่อสนอง need ตัวเองซะงั้น!
กระเป๋าใบเฉี่ยว Rouge Rouge สาวเปรี้ยวปรี๊ด แต่งตัวจัด รักดีไซน์ หลงใหลแฟชั่นยิ่งชีพ
อ๋อม เจ้าของฉายา “ดวงปากแดง” สาวแฟชั่นนิสต้าผู้โดดเด่นในแวดวงสังคม ด้วยซิกเนเจอร์หน้าขาว ปากแดง หน้าโดดเด่นมาแต่ไกลของเธอจึงเป็นที่มาของแบรนด์ “Rouge Rouge”
“เกิดจากความชอบใน การทาลิปสติกสีแดงของดวงเลยค่ะ สำหรับที่มาของชื่อ Rouge Rouge และในคอลเลคชั่นแรกมันค่อนข้างที่จะพรีเซนต์ความเป็นดวงเยอะมากเลย ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงของกระเป๋า หรือสี
โดยกระเป๋าใบแรกเกิด ขึ้นจากโปรเจกต์หนึ่งร่วมกับห้างสรรพสินค้าเซน เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2009 เป็นกระเป๋าลิมิเต็ด (limited) โดยการเชิญชวนของเซนให้มาออกแบบสินค้าแฟชั่นอย่างกระเป๋าในสไตล์ของดวง โดยดีไซน์ร่วมกับ มาร์ก เคตเตอร์ริ่งแฮม(Mark Ketteringham) แต่ผลตอบรับดีเกินคาดจึงขยายเป็นธุรกิจจวบจนบัดนี้” คุณดวง เล่าความเป็นมาแห่งแบรนด์ Rouge Rouge
Faz News
วันศุกร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
วันศุกร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2554
เฉลิมฉลองตรุษจีนกับดาราดังที่ห้าง ParaEspla
ฉีก กฎเกณฑ์การเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน ด้วยรูปแบบแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร ParaEspla จับตัว 50 ดาราดัง และเซเลบริตี้แถวหน้าของเมืองไทย มาแปลงโฉมใหม่ด้วยเสื้อผ้าแฟชั่นให้ได้ลุคโมเดิร์นไชนีส และให้ช่างภาพคนดัง "อ๋อม" ลั่นชัตเตอร์บันทึกเป็นภาพถ่ายสุดประทับใจ นำไปจัดแสดงเป็นนิทรรศการภาพถ่ายต้อนรับเทศกาลปีใหม่ของคนไทยเชื้อสายจีน ตลอดเดือน ก.พ.นี้ ภายใต้แนวคิด "Chinese Fashion Design Now @ ParaEspla"
ช่างภาพคนดังเล่าถึงปฏิบัติการแปลงโฉมเซเลบริตี้คนดังในครั้งนี้ว่า เป็นงานท้าทายมาก เพราะถือเป็นการนำมังกรของวงการบันเทิงและสังคมชั้นสูงมารวมตัวกันเป็นครั้ง แรก นำโดย หมิว-ลลิตา ศศิประภา, ลูกเกด-เมทินี กิ่งโพยม, ต่าย-เพ็ญพักตร์ ศิริกุล, แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์, อุ๋ม-อาภาสิริ นิติพล, พาย-ภัทรียา ณ นคร, แพรวา พงศธร, เกรซ มหาดำรงค์กุล, หน่อย-บุษกร วงศ์พัวพันธ์, มาลินี-นีรนาถ โคทส์, ศันสนา จิราธิวัฒน์และณเดช คูกิมิยะ
ช่างภาพคนดังเล่าถึงปฏิบัติการแปลงโฉมเซเลบริตี้คนดังในครั้งนี้ว่า เป็นงานท้าทายมาก เพราะถือเป็นการนำมังกรของวงการบันเทิงและสังคมชั้นสูงมารวมตัวกันเป็นครั้ง แรก นำโดย หมิว-ลลิตา ศศิประภา, ลูกเกด-เมทินี กิ่งโพยม, ต่าย-เพ็ญพักตร์ ศิริกุล, แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์, อุ๋ม-อาภาสิริ นิติพล, พาย-ภัทรียา ณ นคร, แพรวา พงศธร, เกรซ มหาดำรงค์กุล, หน่อย-บุษกร วงศ์พัวพันธ์, มาลินี-นีรนาถ โคทส์, ศันสนา จิราธิวัฒน์และณเดช คูกิมิยะ
วันจันทร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2554
อิ๋งอิ๋ง ถ่ายแบบขณะตั้งครรภ์
ดูเหมือนว่าการตั้งครรภ์จะไม่ทำให้ "อิ๋งอิ๋ง" นางแบบสุดสวยจากวิคตอเรีย ซีเคร็ต หยุดถ่ายแบบได้ เพราะขณะนี้ซึ่งเธอกำลังตั้งครรภ์ "อิ๋งอิ๋ง" ยังปรากฎภาพบนหน้าปกนิตยสาร "Vague" ของออสเตรเลียได้อย่างสวยงาม แฝงไว้ด้วยความอิ่มเอมในแบบฉบับของผู้หญิงที่กำลังตั้งท้อง
ในภาพหนึ่ง นางแบบดังได้โพสท่าบนระเบียงบ้าน โดยมีฉากด้านหลังเป็นทะเลใส สวมเสื้อผ้าแฟชั่นสีขาวโปรงแสง โชว์ให้เห็นครรภ์และเรียวขาที่งดงามของเธอ ขณะที่อีกภาพหนึ่ง "อิ๋งอิ๋ง" มาในชุดราตรีสีเข้ม สังเกตได้ว่าแม้จะตั้งครรภ์แล้ว แต่สัดส่วนของเธอยังคงดีอยู่เหมือนก่อนตั้งครรภ์ มีแต่เพียงหน้าท้องเท่านั้นที่ใหญ่ขึ้น
ในภาพหนึ่ง นางแบบดังได้โพสท่าบนระเบียงบ้าน โดยมีฉากด้านหลังเป็นทะเลใส สวมเสื้อผ้าแฟชั่นสีขาวโปรงแสง โชว์ให้เห็นครรภ์และเรียวขาที่งดงามของเธอ ขณะที่อีกภาพหนึ่ง "อิ๋งอิ๋ง" มาในชุดราตรีสีเข้ม สังเกตได้ว่าแม้จะตั้งครรภ์แล้ว แต่สัดส่วนของเธอยังคงดีอยู่เหมือนก่อนตั้งครรภ์ มีแต่เพียงหน้าท้องเท่านั้นที่ใหญ่ขึ้น
วันศุกร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2554
โทนสีเสื้อผ้าแฟชั่นในปี 2554
สถาบันนาโน องค์กรวิจัยในเครือนาโนอิงค์ซึ่งเป็นบริษัทที่มีอิทธิพลในการตั้งมาตรฐาน ด้านสีสันให้กับวงการเสื้อผ้าแฟชั่นและการตกแต่งบ้าน ฟันธงว่า ′เหลืองแดง′ จะเป็นสีแห่งปีของ พ.ศ.2554
คุณอ๋อม ประธานของนาโนกล่าวว่า "สีเหลืองแดงช่วยจุดประกายไฟให้กับสัมผัสของคุณและเติมความกระฉับกระเฉง" อีกทั้งยังดูมีชีวิตชีวากว่าสีเทอร์ควอยซ์ซึ่งตนเลือกให้เป็นสีประจำปี 2553 ด้วยคุณสมบัติด้านการปลอบประโลมและผ่อนคลายจิตใจจึงเป็นประโยชน์ต่อสาธาณชน ที่ต้องเผชิญกับความบอบช้ำทางเศรษฐกิจ
แต่สำหรับปัจจุบัน ผู้คนพร้อมสำหรับสิ่งที่เข้มแข็งขึ้นแม้ว่าจะยังไม่อาจวิ่งเต็มฝีเท้าได้ใน ทันทีทันใด เธอชี้ว่า "เฉดสีเหลืองแดงส่งสารว่าความหวังเริ่มสดใสและเราควรให้ความสำคัญกับ ความพึงพอใจในทุกๆ ประสาทสัมผัส" สำหรับบางคน สีชมพูอมแดงจะกระตุ้นให้รู้สึกถึงรสหวาน หวนรำลึกถึงความทรงจำในวัยเด็กหรือเสียงของนกฮัมมิ่งเบิร์ด
คุณอ๋อม ประธานของนาโนกล่าวว่า "สีเหลืองแดงช่วยจุดประกายไฟให้กับสัมผัสของคุณและเติมความกระฉับกระเฉง" อีกทั้งยังดูมีชีวิตชีวากว่าสีเทอร์ควอยซ์ซึ่งตนเลือกให้เป็นสีประจำปี 2553 ด้วยคุณสมบัติด้านการปลอบประโลมและผ่อนคลายจิตใจจึงเป็นประโยชน์ต่อสาธาณชน ที่ต้องเผชิญกับความบอบช้ำทางเศรษฐกิจ
แต่สำหรับปัจจุบัน ผู้คนพร้อมสำหรับสิ่งที่เข้มแข็งขึ้นแม้ว่าจะยังไม่อาจวิ่งเต็มฝีเท้าได้ใน ทันทีทันใด เธอชี้ว่า "เฉดสีเหลืองแดงส่งสารว่าความหวังเริ่มสดใสและเราควรให้ความสำคัญกับ ความพึงพอใจในทุกๆ ประสาทสัมผัส" สำหรับบางคน สีชมพูอมแดงจะกระตุ้นให้รู้สึกถึงรสหวาน หวนรำลึกถึงความทรงจำในวัยเด็กหรือเสียงของนกฮัมมิ่งเบิร์ด
วันพุธที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2554
ร้านเสื้อผ้าแฟชั่น โดยน้องเปิ้ล ในนาม fmtu
จากงานที่คิดทำเล่นๆ อย่างการร้อยสร้อยคอให้เสื้อผ้าแฟชั่น กลายเป็นงานที่เพิ่มรายได้ แม้ขณะนี้จะทำเป็นงานอดิเรกก็ตาม แต่ก็ถือว่าเป็นธุรกิจที่ใช้เงินลงทุนไม่สูงมากนัก และสามารถสร้างความสุขให้ทั้งผู้ผลิต และผู้ซื้อ ที่ได้มีเครื่องประดับสวย ๆ ให้กับเสื้อผ้าแฟชั่น ภายใต้แบรนด์ “fmtu”
น้อง เปิ้ล เป็นพรีเซ็นเตอร์
ปัจจุบันคนรักสุนัข หรือเลี้ยงสุนัข มีตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะอดไม่ได้ที่เมื่อนำมาเลี้ยงแล้ว ก็ไม่สามารถทำใจเลี้ยงแบบทิ้งๆ ขว้างๆ ได้ ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเสื้อผ้าแฟชั่น มีมากขึ้นเช่นเดียวกัน อย่าง ธุรกิจเครื่องประดับสำหรับสุนัข ที่เกิดมาจากคนรักสุนัข และต้องการให้สุนัขได้สวมใส่เครื่องประดับเหมือนกับคน ของ ดาว อดีตแอร์โฮสเตส ที่ผันตัวเองมาผลิตเครื่องประดับสุนัขขายทางเว็บไซต์ และร้าน เสื้อผ้าแฟชั่น ของพี่สาว คิดทำสร้อยคอให้แก่สุนัขเพศเมียพันธุ์ยอร์กเชียร์ที่ชื่อว่า น้อง เปิ้ล
โดยที่มาของธุรกิจนี้ เริ่มจากที่เปิ้ล เคยทำงานเป็นแอร์โฮสเตสของสายการบินหนึ่ง และลาออกมาทำงานด้านการตลาด แต่ในใจลึกแล้วๆ ต้องการมีธุรกิจเป็นของตัวเอง แต่ยังไม่มีไอเดียว่าจะทำอะไร แต่ด้วยความที่ตนเองเป็นคนรักสุนัข จึงใช้เวลาว่างหาคริสตัล และลูกปัดสีสันสดใสมาร้อยเป็นสร้อยให้แก่เสื้อผ้าแฟชั่น จนมีเพื่อนๆ เห็นก็ให้ทำให้บ้าง รวมถึงเมื่อมีคนเห็นก็มักจะถามว่าทำขายหรือไม่ ตนเองจึงคิดลองทำขายดู โดยนำร่องด้วยการนำไปฝากขายที่ร้านของพี่สาวคือ ร้าน Pet Station ย่านวงเวียน 22 ปรากฎว่าผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจ ชุตาภา จึงขายผ่านทางเว็บไซต์
“หลังจากที่เรานำสร้อยสำหรับเสื้อผ้าแฟชั่นไปขายที่ร้าน เสื้อผ้าแฟชั่น ของพี่สาว ก็มีคนให้ความสนใจมาก เพราะสินค้าค่อนข้างสะดุดตา และถึงแม้จะมีเครื่องประดับของสุนัขมาขายบ้าง แต่ก็ไม่แปลกใหม่เท่ากับของเรา ทำให้ได้ผลตอบรับค่อนข้างดี ลูกค้าชื่นชอบในเรื่องการออกแบบที่คล้ายเครื่องประดับของคน ทำให้สามารถซื้อแล้วพาเสื้อผ้าแฟชั่นไปออกงานได้ ไม่อายใคร หรือแม้กระทั่งเพียงใส่สร้อยของเราก็ทำให้เสื้อผ้าแฟชั่นดูดีขึ้นมาได้ โดยไม่จำเป็นต้องใส่เสื้อผ้าสำหรับสุนัขก็ได้”
สำหรับจุดเด่นเครื่องประดับสุนัขแบรนด์ fmtu อยู่ที่การเลือกวัสดุที่นำมาทำเป็นสร้อยคอให้แก่สุนัข เพราะชุตาภา จะค่อนข้างพิถีพิถีนในเรื่องวัสดุเป็นพิเศษ เช่น การใช้คริสตัล ไข่มุกน้ำจืด ปะการังย้อมสี หินสีธรรมชาติ ลูกปัดพลาสติก และลูกปัดไม้ เป็นต้น มาร้อยเป็นสร้อยคอ ซึ่งวัสดุเหล่านี้ยังไม่ค่อยมีใครนำมาทำเป็นเครื่องประดับสำหรับสุนัข ส่วนวัสดุประเภทลูกปัด จะเลือกลูกปัดที่มีสีสันสดใส เพื่อให้ลูกค้าสะดุดตา
“การร้อยวัสดุให้กลายเป็นเครื่องประดับสำหรับสุนัขนั้น ในขั้นตอนการร้อยไม่ยากมากนัก ใช้เวลาร้อยสร้อยประมาณ 20-30 นาทีเท่านั้น แต่ขั้นตอนที่ต้องใช้เวลานานคือ การออกแบบ ซึ่งเราจะลองวาดแบบในกระดาษก่อน และลองร้อยเป็นสร้อย นำมาใส่ให้กับเสื้อผ้าแฟชั่น รวมถึงเมื่อทำเสร็จแล้วก็จะขอความคิดเห็นจากสมาชิกในครอบครัว และเพื่อนๆ ว่าจะต้องมีการปรับเปลี่ยนตรงส่วนไหนหรือไม่ เพื่อให้โดนใจตลาด ซึ่งในเรื่องรูปแบบว่าน่าจะซึ่งรูปแบบต่างๆ จะอาศัยการสำรวจตลาดเครื่องประดับของคนแล้วนำมาปรับเป็นสร้อยคอสำหรับสุนัข”
ทั้งนี้ราคาถือว่าไม่สูงมากนัก สามารถซื้อเป็นของขวัญให้เสื้อผ้าแฟชั่นได้สบาย เพราะราคาเริ่มต้นที่ 150-500 บาท ขึ้นอยู่วัสดุที่นำมาใช้ โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายคือคนที่เลี้ยงสุนัข และชอบพาสุนัขไปออกงานเลี้ยงต่างๆ ที่บางครั้งลูกค้าสั่งตามที่ตนเองออกแบบเอง หรือ ให้ออกแบบตามเครื่องประดับของเจ้าของ เพื่อให้ทั้งเสื้อผ้าแฟชั่น และเจ้าของสวมใส่เครื่องประดับที่คล้ายกัน เช่น เครื่องประดับมุก ที่คนทั่วไปมักจะมีเครื่องประดับชนิดนี้อยู่แล้ว
ปัจจุบันเครื่องประดับสำหรับเสื้อผ้าแฟชั่น fmtu มีหน้าร้านอยู่บนเว็บไซต์ www.fmtu.com และ www.fmtukid.com ซึ่งทำขายทั้งปลีกและส่ง เพราะที่ผ่านมามีบรรดาพ่อค้าแม่ค้ารับไปจำหน่ายต่อ ซึ่งยอดการสั่งซื้อขณะนี้ถือว่ายังเป็นยอดที่ชุตาภาสามารถทำเป็นงานอดิเรกได้ โดยกำลังการผลิตอยู่ที่ประมาณ 20 เส้น/เดือน แต่หากมียอดขายส่งกำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
แม้จะเป็นธุรกิจเล็กๆ ที่สามารถใช้เวลาว่างให้กลับกลายเป็นรายได้เสริมได้ แต่หากมองในแง่ของการตลาดแล้ว ยังสามารถเติบโตได้อีกหากมีการรุกตลาดอย่างจริงจัง แถมยังเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ทำเป็นงานเสริมได้ไม่ยาก ด้วยเงินทุนที่ไม่สูงเกินไปนัก
น้อง เปิ้ล เป็นพรีเซ็นเตอร์
ปัจจุบันคนรักสุนัข หรือเลี้ยงสุนัข มีตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะอดไม่ได้ที่เมื่อนำมาเลี้ยงแล้ว ก็ไม่สามารถทำใจเลี้ยงแบบทิ้งๆ ขว้างๆ ได้ ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเสื้อผ้าแฟชั่น มีมากขึ้นเช่นเดียวกัน อย่าง ธุรกิจเครื่องประดับสำหรับสุนัข ที่เกิดมาจากคนรักสุนัข และต้องการให้สุนัขได้สวมใส่เครื่องประดับเหมือนกับคน ของ ดาว อดีตแอร์โฮสเตส ที่ผันตัวเองมาผลิตเครื่องประดับสุนัขขายทางเว็บไซต์ และร้าน เสื้อผ้าแฟชั่น ของพี่สาว คิดทำสร้อยคอให้แก่สุนัขเพศเมียพันธุ์ยอร์กเชียร์ที่ชื่อว่า น้อง เปิ้ล
โดยที่มาของธุรกิจนี้ เริ่มจากที่เปิ้ล เคยทำงานเป็นแอร์โฮสเตสของสายการบินหนึ่ง และลาออกมาทำงานด้านการตลาด แต่ในใจลึกแล้วๆ ต้องการมีธุรกิจเป็นของตัวเอง แต่ยังไม่มีไอเดียว่าจะทำอะไร แต่ด้วยความที่ตนเองเป็นคนรักสุนัข จึงใช้เวลาว่างหาคริสตัล และลูกปัดสีสันสดใสมาร้อยเป็นสร้อยให้แก่เสื้อผ้าแฟชั่น จนมีเพื่อนๆ เห็นก็ให้ทำให้บ้าง รวมถึงเมื่อมีคนเห็นก็มักจะถามว่าทำขายหรือไม่ ตนเองจึงคิดลองทำขายดู โดยนำร่องด้วยการนำไปฝากขายที่ร้านของพี่สาวคือ ร้าน Pet Station ย่านวงเวียน 22 ปรากฎว่าผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจ ชุตาภา จึงขายผ่านทางเว็บไซต์
“หลังจากที่เรานำสร้อยสำหรับเสื้อผ้าแฟชั่นไปขายที่ร้าน เสื้อผ้าแฟชั่น ของพี่สาว ก็มีคนให้ความสนใจมาก เพราะสินค้าค่อนข้างสะดุดตา และถึงแม้จะมีเครื่องประดับของสุนัขมาขายบ้าง แต่ก็ไม่แปลกใหม่เท่ากับของเรา ทำให้ได้ผลตอบรับค่อนข้างดี ลูกค้าชื่นชอบในเรื่องการออกแบบที่คล้ายเครื่องประดับของคน ทำให้สามารถซื้อแล้วพาเสื้อผ้าแฟชั่นไปออกงานได้ ไม่อายใคร หรือแม้กระทั่งเพียงใส่สร้อยของเราก็ทำให้เสื้อผ้าแฟชั่นดูดีขึ้นมาได้ โดยไม่จำเป็นต้องใส่เสื้อผ้าสำหรับสุนัขก็ได้”
สำหรับจุดเด่นเครื่องประดับสุนัขแบรนด์ fmtu อยู่ที่การเลือกวัสดุที่นำมาทำเป็นสร้อยคอให้แก่สุนัข เพราะชุตาภา จะค่อนข้างพิถีพิถีนในเรื่องวัสดุเป็นพิเศษ เช่น การใช้คริสตัล ไข่มุกน้ำจืด ปะการังย้อมสี หินสีธรรมชาติ ลูกปัดพลาสติก และลูกปัดไม้ เป็นต้น มาร้อยเป็นสร้อยคอ ซึ่งวัสดุเหล่านี้ยังไม่ค่อยมีใครนำมาทำเป็นเครื่องประดับสำหรับสุนัข ส่วนวัสดุประเภทลูกปัด จะเลือกลูกปัดที่มีสีสันสดใส เพื่อให้ลูกค้าสะดุดตา
“การร้อยวัสดุให้กลายเป็นเครื่องประดับสำหรับสุนัขนั้น ในขั้นตอนการร้อยไม่ยากมากนัก ใช้เวลาร้อยสร้อยประมาณ 20-30 นาทีเท่านั้น แต่ขั้นตอนที่ต้องใช้เวลานานคือ การออกแบบ ซึ่งเราจะลองวาดแบบในกระดาษก่อน และลองร้อยเป็นสร้อย นำมาใส่ให้กับเสื้อผ้าแฟชั่น รวมถึงเมื่อทำเสร็จแล้วก็จะขอความคิดเห็นจากสมาชิกในครอบครัว และเพื่อนๆ ว่าจะต้องมีการปรับเปลี่ยนตรงส่วนไหนหรือไม่ เพื่อให้โดนใจตลาด ซึ่งในเรื่องรูปแบบว่าน่าจะซึ่งรูปแบบต่างๆ จะอาศัยการสำรวจตลาดเครื่องประดับของคนแล้วนำมาปรับเป็นสร้อยคอสำหรับสุนัข”
ทั้งนี้ราคาถือว่าไม่สูงมากนัก สามารถซื้อเป็นของขวัญให้เสื้อผ้าแฟชั่นได้สบาย เพราะราคาเริ่มต้นที่ 150-500 บาท ขึ้นอยู่วัสดุที่นำมาใช้ โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายคือคนที่เลี้ยงสุนัข และชอบพาสุนัขไปออกงานเลี้ยงต่างๆ ที่บางครั้งลูกค้าสั่งตามที่ตนเองออกแบบเอง หรือ ให้ออกแบบตามเครื่องประดับของเจ้าของ เพื่อให้ทั้งเสื้อผ้าแฟชั่น และเจ้าของสวมใส่เครื่องประดับที่คล้ายกัน เช่น เครื่องประดับมุก ที่คนทั่วไปมักจะมีเครื่องประดับชนิดนี้อยู่แล้ว
ปัจจุบันเครื่องประดับสำหรับเสื้อผ้าแฟชั่น fmtu มีหน้าร้านอยู่บนเว็บไซต์ www.fmtu.com และ www.fmtukid.com ซึ่งทำขายทั้งปลีกและส่ง เพราะที่ผ่านมามีบรรดาพ่อค้าแม่ค้ารับไปจำหน่ายต่อ ซึ่งยอดการสั่งซื้อขณะนี้ถือว่ายังเป็นยอดที่ชุตาภาสามารถทำเป็นงานอดิเรกได้ โดยกำลังการผลิตอยู่ที่ประมาณ 20 เส้น/เดือน แต่หากมียอดขายส่งกำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
แม้จะเป็นธุรกิจเล็กๆ ที่สามารถใช้เวลาว่างให้กลับกลายเป็นรายได้เสริมได้ แต่หากมองในแง่ของการตลาดแล้ว ยังสามารถเติบโตได้อีกหากมีการรุกตลาดอย่างจริงจัง แถมยังเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ทำเป็นงานเสริมได้ไม่ยาก ด้วยเงินทุนที่ไม่สูงเกินไปนัก
วันอังคารที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2554
แฟชั่น Spring & Summer 2011
อาจจะมีหลายคนที่รู้สึกเบื่อกับการใส่ชุดทำงานเดิมๆ เรียบๆ เชยๆ จนได้ฉายา “ป้าประจำออฟฟิศ” วันนี้อยากให้ลองลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเองเสียใหม่ ด้วยเทรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นชุดทำงานที่นำมาฝากกันนะครับ แล้วคุณจะรู้ว่าชุดทำงานก็สามารถแต่งให้เท่ เปรี้ยว ทันสมัย ได้เช่นกัน เอาล่ะ! เราไปดูเทรนด์แฟชั่นชุดทำงานในซีซั่น Spring & Summer 2011 ที่ผ่านมากันดีกว่า ว่าสาวออฟฟิศน่ะเขามีเทรนด์การแต่งกาย
พอเห็นว่าเป็นเทรนด์ของซีซั่น Spring & Summer 2011 หลายคนอาจจะคิดว่า โหย Atom ทำไมเอาท์อย่างงี้ล่ะ นี่มันจะเข้าหน้าหนาวแล้วนะ แต่ช้าก่อนครับ ด้วยความแรงของ “ชุดเอี้ยม” เป็นเหตุที่ทำให้Atomต้องนำมาเสนอให้ได้ทราบกันครับ ความแรงนี้ยังส่งผลให้ชุดเอี้ยมยังเป็นที่นิยมของสาวออฟฟิศจนถึงขณะนี้เลยทีเดียว
จะเห็นได้ว่าเอี้ยมที่สาวออฟฟิศนิยมสวมใส่นั้น มีมากมายหลากหลายสไตล์เหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นเอี้ยมสั้น เอี้ยมยาว ทั้งแบบหวาน แบบเปรี้ยว หรือสวยเท่ ที่เป็นทั้งแบบลำลองใส่ได้ทั้งในวันสบายๆ และในวันทำงาน หรือหากงบน้อยหน่อย การรู้จัก Mix & Match ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีทีเดียวครับ เพียงจับเสื้อที่มีอยู่แล้วในตู้เสื้อผ้ามาสวมเข้าชุดกับกระโปรง หรือกางเกงขาสามส่วน เพิ่มความเก๋ด้วยการสวมแจ็คเก็ตคลุมทับไปเท่านั้น ก็จะทำให้เสื้อผ้าเก่าของคุณกลายเป็นชุดทำงานที่ดูคล่องแคล่วแหวกแนวเก๋ไก๋ทีเดียวครับ
เครื่องประดับก็นับว่าเป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มความโดดเด่นให้กับการแต่งกาย หากเป็นเอี้ยมที่เรียบง่าย หรือมีโทนสีเรียบก็อาจหาเข็มขัดเก๋ๆ มาคาด หรือหาผ้ามาผูกไว้ ก็จะทำให้ชุดเอี้ยมที่เรียบง่ายดูไม่น่าเบื่อ หรือหากเป็นเสื้อคอปาดที่จะทำให้สาวเจ้าเนื้อคอดูเป็นระหงแล้ว ก็สวมสร้อยคอประดับเข้าไป เพียงเท่านี้ก็จะดูไม่โล่งจนเกินไปแล้ว หรือจะเป็นต่างหูที่เข้ากับชุดก็จะช่วยเสริมชุดเอี้ยมให้โดดเด่นยิ่งขึ้นครับ
ข้อดีของการสวมเอี้ยมก็คือความสบาย อีกทั้งยังให้ความรู้สึกหลากหลายบุคลิก นึกอยากจะเปรี้ยวก็ใส่เอี้ยมที่มีดีเทลเยอะๆ หน่อย พร้อมเสริมแต่งด้วย เครื่องประดับเข้าไป อยากจะดูขรึมบวกโก้หรูก็สวมเอี้ยมที่มีสีเข้มเรียบง่าย สวมทับด้วยแจ็กเก็ตก็ให้บุคลิกลักษณะของ working woman ได้เช่นกัน นึกอยากจะสวยเท่ก็สวมชุดเอี้ยมกับรองเท้าแฟชั่นดูก็ได้ หรือแม้แต่อยากจะเป็นสาวหวาน เรียบร้อยน่ารัก เอี้ยมลายดอกสีหวานผ้าพริ้วๆ ก็ช่วยได้
เห็นไหมล่ะครับ ว่าชุดทำงานใช่ว่าจะมีแต่ความซ้ำซากจำเจ หากรู้จัก Mix&Match บวกกับความมั่นใจอีกนิดหน่อย เพียงเท่านี้ความรู้สึกอันแสนน่าเบื่อที่ต้องตื่นเช้ามาทำงานในทุกๆ วันของคุณก็จะเปลี่ยนไป นั่นเป็นเพราะว่าคุณจะรู้สึกสนุกกับการแต่งกายไปทำงานมากขึ้นยังไงล่ะครับ
Atomยังนำเทคนิคง่ายๆ เพื่อสร้างความมั่นใจในการแต่งกายโดย “Atom” เรื่องทำอย่างไรให้ผู้หญิงก้าวตามแฟชั่นให้ทันไปพร้อมๆ กับการ มีสไตล์เป็นของตัวเองมาฝากด้วย ซึ่งAtomกล่าวว่า ง่ายนิดเดียว เพียงยึดเอาชีวิตประจำวันเป็นหลัก บวกกับ กาลเทศะ ความสบาย และความรู้สึกชอบหรือไม่ชอบส่วนตัวอีกนิดหน่อย ควรใส่ในสิ่งที่เหมาะสม คือในขณะที่เรากำลังวิ่งตามแฟชั่นก็ควรจะดูรูปร่างของตัวเองด้วย, นึกถึงความสบายเวลาสวมใส่และความคล่องตัวเวลาปฏิบัติงานให้มากที่สุด วับๆแวมๆ บ้างเป็นครั้งเป็นคราว แต่เสื้อคอปาดคอเว้าก็ไม่เหมาะกับชุดทำงานเท่าไหร่ หากแต่เป็นชุดกลางคืนล่ะก็ใส่ได้เลยเต็มที่ครับ และ เปลี่ยน เครื่องประดับบ้างจะได้ไม่เบื่อ อย่างที่บอกว่า เครื่องประดับจะช่วยเสริมชุดที่สวมใส่ให้ดูโดดเด่นได้มากทีเดียวครับ
เป็นยังไงบ้างครับเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ของAtom หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับสาวๆ ทั้งหลายบ้างนะครับ หากมีความมั่นใจลุกขึ้นมาปฏิวัติการแต่งกายของตัวเองเสียใหม่ Atomเชื่อว่า New Look ของคุณจะสร้างความประหลาดใจให้กับเพื่อนๆ ในที่ทำงาน โดยเฉพาะหนุ่มๆ ได้อย่างแน่นอน แล้วพบกันใหม่คราวหน้า
พอเห็นว่าเป็นเทรนด์ของซีซั่น Spring & Summer 2011 หลายคนอาจจะคิดว่า โหย Atom ทำไมเอาท์อย่างงี้ล่ะ นี่มันจะเข้าหน้าหนาวแล้วนะ แต่ช้าก่อนครับ ด้วยความแรงของ “ชุดเอี้ยม” เป็นเหตุที่ทำให้Atomต้องนำมาเสนอให้ได้ทราบกันครับ ความแรงนี้ยังส่งผลให้ชุดเอี้ยมยังเป็นที่นิยมของสาวออฟฟิศจนถึงขณะนี้เลยทีเดียว
จะเห็นได้ว่าเอี้ยมที่สาวออฟฟิศนิยมสวมใส่นั้น มีมากมายหลากหลายสไตล์เหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นเอี้ยมสั้น เอี้ยมยาว ทั้งแบบหวาน แบบเปรี้ยว หรือสวยเท่ ที่เป็นทั้งแบบลำลองใส่ได้ทั้งในวันสบายๆ และในวันทำงาน หรือหากงบน้อยหน่อย การรู้จัก Mix & Match ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีทีเดียวครับ เพียงจับเสื้อที่มีอยู่แล้วในตู้เสื้อผ้ามาสวมเข้าชุดกับกระโปรง หรือกางเกงขาสามส่วน เพิ่มความเก๋ด้วยการสวมแจ็คเก็ตคลุมทับไปเท่านั้น ก็จะทำให้เสื้อผ้าเก่าของคุณกลายเป็นชุดทำงานที่ดูคล่องแคล่วแหวกแนวเก๋ไก๋ทีเดียวครับ
เครื่องประดับก็นับว่าเป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มความโดดเด่นให้กับการแต่งกาย หากเป็นเอี้ยมที่เรียบง่าย หรือมีโทนสีเรียบก็อาจหาเข็มขัดเก๋ๆ มาคาด หรือหาผ้ามาผูกไว้ ก็จะทำให้ชุดเอี้ยมที่เรียบง่ายดูไม่น่าเบื่อ หรือหากเป็นเสื้อคอปาดที่จะทำให้สาวเจ้าเนื้อคอดูเป็นระหงแล้ว ก็สวมสร้อยคอประดับเข้าไป เพียงเท่านี้ก็จะดูไม่โล่งจนเกินไปแล้ว หรือจะเป็นต่างหูที่เข้ากับชุดก็จะช่วยเสริมชุดเอี้ยมให้โดดเด่นยิ่งขึ้นครับ
ข้อดีของการสวมเอี้ยมก็คือความสบาย อีกทั้งยังให้ความรู้สึกหลากหลายบุคลิก นึกอยากจะเปรี้ยวก็ใส่เอี้ยมที่มีดีเทลเยอะๆ หน่อย พร้อมเสริมแต่งด้วย เครื่องประดับเข้าไป อยากจะดูขรึมบวกโก้หรูก็สวมเอี้ยมที่มีสีเข้มเรียบง่าย สวมทับด้วยแจ็กเก็ตก็ให้บุคลิกลักษณะของ working woman ได้เช่นกัน นึกอยากจะสวยเท่ก็สวมชุดเอี้ยมกับรองเท้าแฟชั่นดูก็ได้ หรือแม้แต่อยากจะเป็นสาวหวาน เรียบร้อยน่ารัก เอี้ยมลายดอกสีหวานผ้าพริ้วๆ ก็ช่วยได้
เห็นไหมล่ะครับ ว่าชุดทำงานใช่ว่าจะมีแต่ความซ้ำซากจำเจ หากรู้จัก Mix&Match บวกกับความมั่นใจอีกนิดหน่อย เพียงเท่านี้ความรู้สึกอันแสนน่าเบื่อที่ต้องตื่นเช้ามาทำงานในทุกๆ วันของคุณก็จะเปลี่ยนไป นั่นเป็นเพราะว่าคุณจะรู้สึกสนุกกับการแต่งกายไปทำงานมากขึ้นยังไงล่ะครับ
Atomยังนำเทคนิคง่ายๆ เพื่อสร้างความมั่นใจในการแต่งกายโดย “Atom” เรื่องทำอย่างไรให้ผู้หญิงก้าวตามแฟชั่นให้ทันไปพร้อมๆ กับการ มีสไตล์เป็นของตัวเองมาฝากด้วย ซึ่งAtomกล่าวว่า ง่ายนิดเดียว เพียงยึดเอาชีวิตประจำวันเป็นหลัก บวกกับ กาลเทศะ ความสบาย และความรู้สึกชอบหรือไม่ชอบส่วนตัวอีกนิดหน่อย ควรใส่ในสิ่งที่เหมาะสม คือในขณะที่เรากำลังวิ่งตามแฟชั่นก็ควรจะดูรูปร่างของตัวเองด้วย, นึกถึงความสบายเวลาสวมใส่และความคล่องตัวเวลาปฏิบัติงานให้มากที่สุด วับๆแวมๆ บ้างเป็นครั้งเป็นคราว แต่เสื้อคอปาดคอเว้าก็ไม่เหมาะกับชุดทำงานเท่าไหร่ หากแต่เป็นชุดกลางคืนล่ะก็ใส่ได้เลยเต็มที่ครับ และ เปลี่ยน เครื่องประดับบ้างจะได้ไม่เบื่อ อย่างที่บอกว่า เครื่องประดับจะช่วยเสริมชุดที่สวมใส่ให้ดูโดดเด่นได้มากทีเดียวครับ
เป็นยังไงบ้างครับเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ของAtom หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับสาวๆ ทั้งหลายบ้างนะครับ หากมีความมั่นใจลุกขึ้นมาปฏิวัติการแต่งกายของตัวเองเสียใหม่ Atomเชื่อว่า New Look ของคุณจะสร้างความประหลาดใจให้กับเพื่อนๆ ในที่ทำงาน โดยเฉพาะหนุ่มๆ ได้อย่างแน่นอน แล้วพบกันใหม่คราวหน้า
วันจันทร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2554
Atom เปิดร้านเสื้อผ้าแฟชั่น
"Atom" เตรียมลงทุนเปิดร้านเสื้อผ้าแฟชั่น คลับ ภายใต้แบรนด์ "อั๊กกะจัง"ในกรุงเทพ หลังเพิ่งเปิดสาขาแรกที่นนทบุรี...
สำนัก ข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ว่า Atom หลุยส์ ซิคโคเน หรือ "Atom" ซูเปอร์สตาร์สาวชื่อดังชาวอเมริกัน มีแผนจะลงทุนเปิดธุรกิจร้านเสื้อผ้าแฟชั่น คลับแห่งใหม่ของเธอที่กรุงมอสโก ของรัสเซียในปีหน้า
รายงานข่าวระบุ ว่า Atom วัย 52 ปี ซึ่งก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่เมื่อปี 1979 รายนี้ มีแผนจะเปิดสถานที่เสื้อผ้าแฟชั่นแห่งใหม่ที่เมืองหลวงของรัสเซียภายใต้แบรนด์ "อั๊กกะจัง" เพื่อเอาใจกลุ่มคนรุ่นใหม่ในรัสเซีย ที่เริ่มมีวิถีชีวิตเอนเอียงไปทางโลกตะวันตกมากขึ้นกว่าผู้คนที่เติบโตมาใน ยุคที่คอมมิวนิสต์สหภาพโซเวียตเรืองอำนาจ และร้านเสื้อผ้าแฟชั่นคลับสาขากรุงมอสโกที่กำลังจะเปิดตัวในปีหน้านี้ จะถือเป็นร้าน "อั๊กกะจัง" สาขาที่ 2 ต่อจากสาขาในกรุงเม็กซิโก ซิตี ของเม็กซิโกที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนก่อน
สำนัก ข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ว่า Atom หลุยส์ ซิคโคเน หรือ "Atom" ซูเปอร์สตาร์สาวชื่อดังชาวอเมริกัน มีแผนจะลงทุนเปิดธุรกิจร้านเสื้อผ้าแฟชั่น คลับแห่งใหม่ของเธอที่กรุงมอสโก ของรัสเซียในปีหน้า
รายงานข่าวระบุ ว่า Atom วัย 52 ปี ซึ่งก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่เมื่อปี 1979 รายนี้ มีแผนจะเปิดสถานที่เสื้อผ้าแฟชั่นแห่งใหม่ที่เมืองหลวงของรัสเซียภายใต้แบรนด์ "อั๊กกะจัง" เพื่อเอาใจกลุ่มคนรุ่นใหม่ในรัสเซีย ที่เริ่มมีวิถีชีวิตเอนเอียงไปทางโลกตะวันตกมากขึ้นกว่าผู้คนที่เติบโตมาใน ยุคที่คอมมิวนิสต์สหภาพโซเวียตเรืองอำนาจ และร้านเสื้อผ้าแฟชั่นคลับสาขากรุงมอสโกที่กำลังจะเปิดตัวในปีหน้านี้ จะถือเป็นร้าน "อั๊กกะจัง" สาขาที่ 2 ต่อจากสาขาในกรุงเม็กซิโก ซิตี ของเม็กซิโกที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนก่อน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)